รากฟันเทียม

รากฟันเทียมเป็นหนึ่งในทางเลือกของการทำฟันเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสีย สำหรับหลายๆท่านที่ต้องสูญเสียฟันไป หรืออาจต้องถอนฟันเนื่องจากฟันมีความเสียหายด้วยสาเหตุต่างๆ มีผลทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันไม่มีความสะดวก เช่น ไม่มีฟันในการบดเคี้ยวอาหาร ไม่สะดวกเวลาพูด หรือ อาจทำให้ขาดความมั่นใจ
ก่อนการเริ่มต้นฝังรากเทียม ทันตแพทย์จะตรวจเช็คช่องว่างของฟันที่สูญเสียฟันเดิมไปนั้นอย่างละเอียด โดยจะมีการเอ็กซเรย์ เพื่อช่วยให้เห็นภาพของกระดูกโดยรวมของบรืเวณที่จะทำการฝังราก หรือใบบางกรณีอาจมีการทำ CT Scan เพิ่มด้วย และเมื่อตรวจเช็คความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะเริ่มขั้นตอนฝังรากเทียมในลำดับต่อไป

 

รากฟันเทียม หรือ รากเทียม มีขั้นตอนหลักๆ 2 ขั้นตอนด้วยกัน  ดังนี้
ขั้นตอนแรก: การฝังรากเทียมที่ทำจากวัสดุไทเทเนียม ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และสามารถเข้ากับกระดูกในช่องปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยรากเทียมนี้จะถูกฝังลงไปที่ในกระดูกขากรรไกร ซึ่งขั้นตอนการฝังรากเทียมนั้นจะใช้เวลาประมาณ 60-90 นาที โดยทันตแพทย์เฉพาะทางรากเทียมจะดำเนินการโดยมีการฉีดยาชา เพื่อให้เกิดอาการชาในช่องปาก จากนั้นจะทำการฝังรากเทียมโดยในบางกรณีอาจมีการปลูกกระดูกร่วมด้วยถ้าคนไข้มีกระดูกขากรรไกรที่ไม่แข็งแรงพอที่จะยึดตัวรากเทียม โดยรากเทียมที่ฝังเข้าไปนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับเสายึด หลังจากนั้นประมาณ 3-6 เดือน จะเป็นช่วงระยะเวลาที่รอให้รากเทียมที่ถูกฟังลงไปนั้นได้สมานตัวสนิทกับกระดูกขากรรไกร ก่อนที่จะเริ่มการรักษาในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่สอง: คือ การทำครอบฟันด้านบนของตัวรากเทียม โดยเริ่มแรกทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ครอบฟันเพื่อเตรียมทำครอบฟัน โดยทันตแพทย์จะพิจารณาสีครอบฟันร่วมกับคนไข้เพื่อให้ได้สีที่ใกล้เคียงกับสีฟันจริงให้มากที่สุด หลังจากพิมพ์ครอบฟันแล้ว ชิ้นงานจะถูกส่งไปทำงานครอบฟันที่ห้องแลป ซึ่งจะใช้เวลา 5-7 วันทำการ จากนั้นทันตแพทย์จะทำการใส่ครอบฟันบนรากเทียมให้ หรือที่เรียกว่า (Crown on Implant) ก็เป็นการจบขั้นตอนของการทำรากเทียมโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ทันตแพทย์อาจมีการนัดหมาย 1-3 เดือนเพื่อติดตามผลการรักษา